‘ลดกล้ามเนื้อกราม’ดีกว่า’ตัดกราม’ อย่างไร ?
ปัญหาหน้าบาน ต้องพิจารณาให้ดีว่าเกิดจากสาเหตุใด แต่ละคนมีปัญหาที่แตกต่างกัน โดยปัญหาหลัก ๆ แบ่งเป็น
1. กล้ามเนื้อกรามใหญ่ (Masster hypertrophy)
กล้ามเนื้อกราม (Masseter muscle) เป็นกล้ามเนื้อที่ใช้ในการบดเคี้ยวอาหาร กล้ามเนื้อนี้จะมีขนาดใหญ่มากขึ้น ถ้ามีพฤติกรรมกินของแข็ง ๆ เหนียว ๆ บ่อย ๆ เคี้ยวหมากฝรั่ง หรือแม้กระทั่งการนอนกัดฟัน การรักษากล้ามเนื้อกรามใหญ่มีดังนี้
- ฉีดโบท็อกซ์ลดกราม เป็นวิธีที่เจ็บน้อย ได้ผลดี แต่ผลลัพธ์คงอยู่ชั่วคราวประมาณ 4-6 เดือน
- ผ่าตัดลดกล้ามเนื้อกรามโดยใช้เลเซอร์ RF (RadioFrequency) เป็นการผ่าตัดเล็ก โดยแผลอยู่ในช่องปาก การผ่าตัดคล้ายการผ่าฟันคุด ใช้เวลาผ่าตัดประมาณ 1 ชั่วโมง ผลลัพธ์เทียบเท่าการฉีดโบท็อกซ์ แต่อยู่ได้ถาวร
2. กระดูกกรามใหญ่
คนไข้บางท่านมีปัญหามุมของกระดูกกรามเด่นชัด แต่กล้ามเนื้อกรามไม่ใหญ่มาก กรณีนี้เหมาะสำหรับการผ่าตัดลดมุมกระดูกกราม หรือ ที่เรียกกันโดยทั่วไปว่า “เหลากราม” นั่นเอง
3. ไขมันกระพุ้งแก้มมีปริมาณมาก
ปัญหานี้พบบ่อยมากในคนเอเชีย โดยเฉพาะคนไทย จีน ซึ่งปริมาณไขมันแก้มที่มากจะทำให้เวลายิ้มแก้มจะนูนเด่นออกด้านข้าง เวลาอายุมากขึ้นแล้วไขมันนี้จะห้อยย้อยลงมาทำให้แก้มห้อยได้
วิธีการรักษาปัญหาหน้าบานที่เกิดจากไขมันกระพุ้งแก้มมีปริมาณมาก วิธีที่ดีที่สุด คือ การผ่าตัดไขมันกระพุ้งแก้ม จะช่วยแก้ไขปัญหาได้ตรงจุด ทำให้เวลายิ้มหน้าไม่บาน และเมื่ออายุมากขึ้นจะทำให้แก้มห้อยย้อยช้าลงอีกด้วย